ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (PSG) ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกได้สำเร็จ หลังจากเอาชนะบาเยิร์น มิวนิก ได้อย่างสุดดราม่า 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ประตูในครึ่งหลังจากดีซิเร่ ดูเอ และตัวสำรอง อุสมาน เดมเบเล่ ช่วยให้ PSG ยุติสตรีคการแพ้บาเยิร์นลงได้
ก่อนลงแข่งขัน PSG พ่ายแพ้ 4 นัดติดต่อกันกับแชมป์บุนเดสลีกา
แชมป์เก่ายูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกต้องคว้าชัยชนะมาด้วยความยากลำบาก เมื่อดูโอ้ ลูกาส เอร์นานเดซ และ วิลเลียน ปาโช โดนใบแดงตรงในช่วงโค้งสุดท้ายของการแข่งขัน
บาเยิร์นต้องเสียจามาล มูเซียลาไปในช่วงปลายครึ่งแรกจากอาการบาดเจ็บอันเลวร้ายเมื่อข้อเท้าซ้ายของเขาเคลื่อนหลังจากปะทะกับจานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูของ PSG
หลังจากการแข่งขันที่สูสี PSG เปิดประตูทำประตูได้ในนาทีที่ 78 โดยได้รับความช่วยเหลือจาก Doue
กองหน้าดาวรุ่งรับบอลจาก โจเอา เนเวส ที่บริเวณขอบกรอบเขตโทษ จากนั้นก็ยิงด้วยเท้าซ้ายทะลุผ่าน มานูเอล นอยเออร์ ที่ยืนอยู่ไป
ยังอ่าน: 2025 CWC: PSG ไม่ใช่ทีมเต็งที่จะเอาชนะบาเยิร์น มิวนิค – เอนริเก้
ไม่กี่นาทีต่อมา แฮร์รี่ เคน คิดว่าเขาตีเสมอได้แล้ว เมื่อเขาโหม่งบอลข้ามคานออกไป แต่ความพยายามของเขาถูกตัดสินว่าล้ำหน้า
PSG ลดผู้เล่นเหลือ 9 คน
ในนาทีที่ 84 เปแอ็สเฌเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน เมื่อปาโชถูกส่งไปเข้าเสียบอันตรายกับเลออน โกเร็ตซ์ก้าของบาเยิร์น
สถานการณ์ของ PSG แย่ลงเรื่อยๆ เมื่อเอร์นานเดซโดนใบแดงตรงๆ ในนาทีที่ 92 หลังจากใช้ศอกฟาดหน้านักเตะบาเยิร์น
แต่เป็น PSG ที่ได้ประตูที่สองในนาทีที่ 96 จากลูกครอสต่ำของอัชราฟ ฮาคิมี่ ผ่านมือนอยเออร์ไป
ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ บาเยิร์น ได้จุดโทษหลังจากที่ผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ตัดสินให้ นูโน่ เมนเดส เตะเข้าที่ใบหน้าของ โทมัส มุลเลอร์ ด้วยรองเท้าในกรอบเขตโทษขณะที่เขาโหม่งบอล แต่บอลถูกสกัดออกจากเส้นประตูไป
แต่หลังจากปรึกษากับผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอ (VAR) การตัดสินจุดโทษก็ถูกยกเลิก
ทัพปารีสจะต้องเผชิญหน้ากับเรอัล มาดริด หรือโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในรอบรองชนะเลิศวันที่ 9 กรกฎาคม
โดย James Agberebi