การซื้อขายฟอเร็กซ์เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายคู่สกุลเงินเพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคา โดยซื้อและขายสกุลเงินเป็นคู่เพื่อใช้ประโยชน์จากความผันผวนของมูลค่า
การซื้อขายแลกเปลี่ยน การดำเนินการดังกล่าวทำได้โดยการวางตำแหน่งที่ขึ้นอยู่กับประเภทคำสั่งซื้อขายที่แตกต่างกัน จากมุมมองของทั้งผู้ซื้อขายมือใหม่และผู้ซื้อขายที่มีประสบการณ์ สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจประเภทคำสั่งซื้อขายฟอเร็กซ์ที่แตกต่างกัน เนื่องจากคำสั่งซื้อขายเหล่านี้จะกำหนดวิธีและเวลาดำเนินการซื้อขายของคุณ ด้านล่างนี้ เราจะมาดูประเภทคำสั่งซื้อขายฟอเร็กซ์หลักๆ ที่คุณควรทราบกันโดยละเอียด
-
คำสั่งซื้อในตลาด
คำสั่งซื้อขาย Forex ที่ตรงไปตรงมามากที่สุดคือคำสั่งซื้อขายตามตลาด ในคำสั่งซื้อขายนี้ จะทำการซื้อขายคู่สกุลเงินบางคู่ในราคาตลาดปัจจุบัน ดังนั้น การดำเนินการนี้จะดำเนินการทันทีเมื่อมีความจำเป็นเร่งด่วนในการเข้าหรือออกจากตลาดนั้นๆ แม้ว่าคำสั่งซื้อขายตามตลาดจะรับประกันการดำเนินการ แต่ในกรณีของตลาดที่มีความผันผวนสูง โดยเฉพาะตลาดที่มีการซื้อขายคึกคัก ราคาอาจไม่เป็นไปตามที่เสนอไว้
-
จำกัด การสั่งซื้อ
คำสั่งจำกัดราคาหมายถึงราคาที่กำหนดไว้ซึ่งผู้ซื้อขายคาดการณ์การซื้อหรือขายคู่สกุลเงินที่กำหนด กล่าวคือ ในการกำหนดคำสั่งซื้อแบบจำกัด ผู้ซื้อขายจะต้องป้อนราคาที่ต่ำกว่าราคาปัจจุบันในตลาด ในขณะที่ในการวางคำสั่งขายแบบจำกัด ผู้ซื้อขายจะต้องป้อนราคาที่สูงกว่าราคาปัจจุบันในตลาด
คำสั่งจำกัดจะทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีการดำเนินการที่ราคาที่ต้องการหรือดีกว่า แต่ไม่มีการรับประกันการดำเนินการหากตลาดไม่ถึงระดับราคาที่ระบุ
-
หยุดการสั่งซื้อ
คำสั่งหยุดการซื้อขายใช้เพื่อเริ่มการซื้อขายเมื่อราคาตลาดถึงระดับที่นักลงทุนกำหนดไว้ล่วงหน้า คำสั่งหยุดการซื้อขายมีอยู่ 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้
คำสั่ง Buy Stop: เป็นคำสั่งซื้อที่สูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน และจะเปิดใช้งานเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ โดยปกติจะเกิดขึ้นเมื่อเทรดเดอร์คาดการณ์ว่าราคาจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปหลังจากที่ทะลุระดับแนวต้านไปแล้ว
คำสั่ง Sell Stop: สามารถตั้งค่าไว้ต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบันได้ โดยคำสั่งนี้จะดำเนินการเมื่อราคาลดลงมาถึงระดับนั้น คำสั่งนี้มักใช้เพื่อจับจังหวะขาลงหรือปกป้องผลกำไรในรูปแบบอื่น
ในทางกลับกัน คำสั่งหยุดการซื้อขายจะช่วยให้ผู้ซื้อขายสามารถเข้าสู่ตลาดได้ในกรณีที่เกิดการฝ่าวงล้อม แต่ก็อาจเผชิญกับผลกระทบจากความลื่นไถลในช่วงที่มีสภาวะผันผวนสูง
-
คำสั่งหยุดการขาดทุน
คำสั่ง stop-loss เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่ช่วยจำกัดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น หมายความว่าผู้ซื้อขายกำหนดคำสั่งไว้ที่ระดับราคาหนึ่ง และในกรณีที่ตลาดเคลื่อนไหวในเชิงลบ การซื้อขายจะถูกปิดโดยอัตโนมัติที่ราคา stop-loss ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อ EUR/USD ที่ 1.1000 และกำหนด stop-loss ที่ 1.0950 การซื้อขายจะปิดลงเมื่อราคาลดลงเหลือ 1.0950 ซึ่งจะช่วยป้องกันคุณจากการขาดทุนเพิ่มเติม
อ่านเพิ่มเติม: โอซิมเฮนทำแอสซิสต์ในลีกเป็นครั้งที่ 4 ช่วยให้กาลาตาซารายคว้าชัยชนะนอกบ้าน ขยายช่องว่างนำจ่าฝูง
-
คำสั่งขายทำกำไร
ในทางกลับกัน คำสั่ง Take Profit อาจกล่าวได้ว่าตรงกันข้ามกับคำสั่ง Stop Loss โดยจะให้กำไรจากการปิดการซื้อขายที่เป้าหมายกำไรที่กำหนดไว้ล่วงหน้าโดยผู้ซื้อขายเมื่อตลาดบรรลุระดับนี้ ตัวอย่าง: คุณซื้อ EUR/USD ที่ 1.1000 และวางคำสั่ง Take Profit ที่ 1.1050 คำสั่งจะปิดการซื้อขายที่ 1.1050 ดังนั้นจึงล็อกกำไรไว้ได้
-
คำสั่งหยุดต่อท้าย
คำสั่ง Trailing stop จะอัปเดตโดยอัตโนมัติตามทิศทางการเคลื่อนไหวที่คุณต้องการ คำสั่งแบบไดนามิกรูปแบบนี้จะตามราคาด้วยระยะทางที่กำหนดและตรึงกำไรของคุณไว้แต่จะลดการขาดทุนของคุณลง ตัวอย่างเช่น หากคุณตั้งค่า Trailing stop ไว้ที่ 50 pips และตลาดมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 100 pips Stop loss ของคุณจะเพิ่มขึ้นตามมูลค่าที่เพิ่มขึ้นนั้น 50 pips
สรุป
คำสั่งซื้อขาย Forex หลักถือเป็นความรู้ที่ขาดไม่ได้สำหรับการซื้อขายและการจัดการความเสี่ยงที่ประสบความสำเร็จ โดยผู้ซื้อขายสามารถเข้าสู่ตลาดด้วยคำสั่งซื้อขายในตลาด ปิดบัญชีด้วยคำสั่ง stop-loss หรือปิดกำไรด้วยคำสั่ง take-profit ซึ่งทั้งหมดนี้มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้คุณพัฒนากลยุทธ์การซื้อขายของคุณต่อไปได้ เพื่อให้สามารถดำเนินการในตลาด Forex ได้อย่างมั่นใจ